ถ้าจะพูดถึงค่ายหนังอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ใครหลายๆ คนคงนึกถึงค่าย GTH เป็นชื่อแรกๆ
ค่ายหนังอารมณ์ดี ที่ทำหนังส่วนใหญ่ได้ถูกจริตคนไทย แถมยังสร้างปรากฎการณ์หน้าใหม่ ของวงการหนังไทย
ด้วยการมีภาพยนตร์ที่รายได้สูงสุดในประเทศไทย นั่นก็คือเรื่อง"พี่มากพระโขนง" ทำรายได้ไปกว่า 598.96 ล้านบ้าท (รวมทั้งประเทศ 1000 ล้านบาท)
ปีถัดมา กระแส GTH ก็ยังแรงอย่างฉุดไม่อยู่ ส่งหนังเรื่อง "ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้" มากวาดรายได้ไปกว่า 330.59 ล้านบาท อยู่ในอันดับ 2 ของภาพยนตร์ที่รายได้สูงสุดในประเทศไทย รองมาจาก "พี่มากพระโขนง"
อะไรคือสูตรสำเร็จของหนัง GTH ?
หนัง GTH เรื่องแรกที่ผมได้ดูก็คือเรื่อง"แฟนฉัน" ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่เลย ประมาณ 7 ขวบ แต่จำได้ว่าชอบมาก ดูในโรงแล้ว พอออกวีซีดี ก็ยังซื้อมาดูอีกหลายรอบนับไม่ถ้วน จนตอนนี้แผ่นเสียดูไม่ได้แล้ว 555
ยังจำความรู้สึก หลังจากออกจากโรงหนังได้ "มันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจอย่างบอกไม่ถูก" หนังมันละมุนละไมเหลือเกิน
ถึงตอนนี้จะเปิดดูซ้ำอีกสักกี่รอบ ก็ยังรู้สึกแบบนั้นเหมือนเดิม ดูได้ไม่มีเบื่อเลย ผมยกให้เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ GTH เลย และ"แฟนฉัน" ถือเป็นต้นแบบหนัง "Feel Good" ตามแบบฉบับ GTH ที่หลายคนชอบนักชอบหนา
ถ้าจะถามว่า ทำไมหนัง GTH ส่วนใหญ่ถึงประสบความสำเร็จ??
ในความคิดผม ผมว่า GTH ค่อนข้างลงตัวและพอดี ในหลายๆอย่าง หรือ พูดง่ายๆคือมัน"กลมกล่อม" เริ่มตั้งแต่......- (บทภาพยนตร์) สำหรับบางค่าย อาจไม่ได้ใส่ใจเรื่องบทอะไรมาก ไปเน้นในส่วน Production ,นักแสดงมากกว่า
แต่สำหรับผม บทมันคือ"หัวใจหลัก"ของหนังเลยก็ว่าได้ หนังจะออกมาดีไม่ดี ก็เพราะบทเนี่ยแหละ บทดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง GTH ใส่ใจและเคี่ยวกับบทหนังมากกก บางเรื่องเห็นเขียนบทเป็นปีสองปีก็มี แก้แล้วแก้อีกไม่รู้กี่รอบ กว่าจะได้เปิดกล้องถ่ายทำ
- (การคัดเลือกนักแสดง) หรือการ Casting GTH เป็นหนึ่งค่ายที่เลือกนักแสดง ได้เหมาะสมกับบท
แถมยังแจ้งเกิดนักแสดงมากมายให้กับวงการ ใครที่เล่นกับ GTH แล้วเกิด ก็จะดังยาวๆ ไปอีกนาน
- (การโปรโมท) ปฏิเสธไม่ได้ว่า GTH โปรโมทหนังแต่ละเรื่องหนักมาก ก็อย่างว่าเป็นเครือของ GMM Grammy
สื่อในมือเพียบ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ บลาๆ ทุนหนา สามารถทุ่มทุนไปกับการโปรโมทได้เยอะ
- (แฟนคลับ) จากการสะสมชื่อเสียงการทำหนังมาหลายปี ก็ไม่แปลกที่ GTH จะมีแฟนคลับเยอะมาก คอยสนับสนุน
ไม่ว่าจะทำหนังอะไรออกมา ก็จะมีแฟนๆ พร้อมเสียเงินไปดู หนังดีไม่ดีนั่นอีกเรื่องนึง
ยิ่งสมัยนี้ที่ Social กับ Pantip ครองเมือง มีอิทธิพลกับคนดูหนังเป็นอย่างมาก เพราะข่าวสารมันถึงกันไวจริงๆ
หนังดีไม่ดี คนที่ยังไม่ดูจะรู้ทันที หลังจากคนที่ดูแล้วโพสต์ลง Social หรือ Pantip
แต่ว่า หนัง GTH ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกเรื่องไป หลายเรื่องทำแล้วเจ๊งขาดทุนก็มี GTH ลองผิดลองถูก
จนรู้ว่าต้องทำหนังแบบไหนที่คนดูชอบแล้ว"ได้เงิน"ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แนวหรอกครับ ที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบดู
มันทำให้คนดูได้ดูแต่แนวเดิมๆ เพราะค่ายหนังไม่กล้าเสี่ยงกับยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ซึ่งผมก็เข้าใจนะ
ถ้าเราลอง"ป้อนรสชาติใหม่ๆ แต่ทำให้มันรับง่ายขึ้น"กับคนดู มันก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย
ติดตาม หรือ พูดคุยกับเราได้ที่